1.ขั้นตอนและวิธีการอัพโหลดไฟล์

ขั้นตอนและวิธีการอัพโหลดไฟล์
 
 
             สำหรับขั้นตอนและวิธีการอัพโหลดไฟล์ นั้นผมขอยกตัวอย่างของ Filesonic นะครับ โฮสต์อัพโหลดตัวอื่น ๆ ก็จะมีวิธีที่คล้าย ๆ กันครับ

เริ่มต้นเลย หลังจากที่เราสมัครสมาชิก Filesonic แล้ว ดูวิธีการสมัครที่นี่ (สมัครคลิกที่นี่) เมื่อท่านสมัครสมาชิกแล้วให้ทำการ Log in เข้าใช้งานจะเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ ซึ่งจะมีปรากฎเมนูด้านบนหลายเมนูด้วยกัน  ให้ท่านเลือกเมนู Upload 
 

การอัพโหลดไฟล์แบบที่ 1 (Web upload)






 
 
***********************************************************
 
การอัพโหลดไฟล์แบบที่ 2  (FTP)

         การอัพโหลดข้อมูลสู่ระบบของ ผ่านโปรแกรม FTP Client เป็นวิธีที่ง่ายสะดวกและรวดเร็วกว่าแบบที่ 1 สามารถอัพโหลดครั้งละหลายๆไฟล์ ไม่จำกัดขนาดของไฟล์ และยังสามารถทำการอัพโหลดต่อได้หากมีปัญหาเกิดจากการเชื่อมต่อของอินเตอร์ เน็ต
ในตัวอย่างที่จะนำมาเสนอนี้ขอใช้โปรแกรม FileZilla มาเป็นตัวอย่าง เนื่องจากโปรแกรม FTP Client ของ FileZilla เป็นโปรแกรมแจกฟรี และมีคุณสมบัติดีในการใช้งาน
หากต้องการโปรแกรม FileZilla สามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่
         เมื่อทำการ Install โปรแกรม FileZilla ลงเครื่องเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา จะมีลักษณะดังภาพ ให้กดปุ่ม "เปิดตัวจัดการที่ตั้ง" (วงกลมที่ 1) เพื่อทำการตั้งค่าของระบบสำหรับอัพโหลดข้อมูลขึ้น Web Site
เมื่อกดปุ่ม "เปิดตัวจัดการที่ตั้ง" จะมีหน้าต่าง "ตัวจัดการที่ตั้ง" เปิดเพิ่มขึ้นมา ให้กดที่ปุ่ม "สร้างที่ตั้งใหม่" (วงกลมที่ 2)
เมื่อกดปุ่ม "สร้างที่ตั้งใหม่" แล้วจะปรากฏดังภาพ
ให้ทำการเปลี่ยนชื่อที่ตั้งใหม่เป็นชื่อที่ง่ายต่อการจำ และใส่ค่าต่างๆของระบบลงไปดังนี้
หัวข้อ General
  • โฮสต์ : ใส่ชื่อ Web Site FTP ในที่นี้ให้เลือก Hostname ตัวใดตัวหนึ่ง คือ  
Hostname (US): ftp.us.filesonic.com Hostname (EU): ftp.eu.filesonic.com
  •  พอร์ต : ใส่เลข 21 ลงไป


  • ชนิดเซอร์เวอร์ : เลือกเป็น FTP - File Transfer Protocal
  • Logontype : ปกติ
  • ผู้ใช้ : อีเมลที่ใช้สมัคร Filesonic
  • รหัสผ่าน : เป็นรหัสเดียวกับที่ใช้ในการสมัคร Filesonic
เมื่อใส่ครบถ้วนแล้วให้กดที่ "เชื่อมต่อ" (วงกลมที่ 4)



หากทำตามขั้นตอนถูกต้องทั้งหมดโปรแกรมจะเชื่อมต่อไปยังเซอร์เวอร์ และปรากฏดังภาพด้านล่างนี้


ส่วนประกอบของโปรแกรม FileZilla คร่าวๆจะมีดังนี้
  • ช่องที่ 1 จะเป็นรายละเอียดต่างๆ ที่ระบบส่งมา
  • ช่องที่ 2 เป็น Folder ในเครื่องที่ใช้งานอยู่
  • ช่องที่ 3 เป็น Folder ที่อยู่บนเครื่องเซอร์เวอร์ จะไม่ขึ้นถ้า้เราไม่ได้กำหนด (แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมายครับ)
  • ช่องที่ 4 เป็นไฟล์ที่อยู่ใน Folder ในเครื่องที่เลือกอยู่ขณะนั้น การส่งไฟล์หรือ Folder ไปยังเซอร์เวอร์ ของ Filesonic นั้นทำได้ง่ายๆ เพียงใช้ mouse กดค้างไว้ที่ชื่อไฟล์หรือ Folder ในช่องที่ 4 แล้วลากไปปล่อยในช่องที่ 5 หรือเราสามารถเลือกไฟล์ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราดดยตรงโดยคลิกลากมาวางช่องด้านล่างเปล่าๆ ด่านล่างได้เลยครับ จากนั้นคลิกขวาเริ่มการทำงาน
  • ช่องที่ 5 เป็นไฟล์ที่อยู่ใน Folder บนเซอร์เวอร์


หากมีปัญหาในการใช้งานสามารถติดต่อได้ที่ kru-krung@hotmail.com เพื่อแก้ไขปัญหา 
* ขอขอบคุณเนื้อหาและไฟล์รูปภาพบางส่วนจาก thaismarthost

************************************************************************
การอัพโหลดไฟล์แบบที่ 3  (Remote upload)
 
เลือกเมนู  Upload คลิกเลือก Remote upload จะปรากฎหน้าต่าง upload ขึ้นมา
ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการรีโมท File จาก Mediafire ครับเนื่องจากว่าสามารถรีโมทมาได้แบบฟรีๆ ส่วนโฮสต์อื่นอาจจะต้องสมัคร  Premium ของโฮสต์นั้นๆ จึงจะสามารถรีโมทมาได้ครับ
อันดับแรกให้ท่านหาลิงค์ที่เราต้องการจะรีโมทตามเว็บบอร์ดหรือเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นลิงค์ Mediafire มา จากนั้นคลิกที่ลิงค์ที่้เราต้องการรีโมท จะปรากฎหน้าต่างขึ้นมาดังรูป

กรณีใช้ Browser ของ Firefox

กรณีใช้ Browser ของ Internet Explorer
นำลิงค์ที่ Copy มาวางในช่องตามรูป จากนั้นคลิก Upload


 
 ********************************************************
            เป็นอันเสร็จสิ้นขบวนการอัพโหลดไฟล์ทั้ง 3 แบบ ชอบหรือสะดวกแบบไหน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามสะดวกนะครับ ซึ่งความเร็วส่วนใหญ่ในการอัพโหลดไฟล์โดยใช้อินเตอร์เน็ตในบ้านเรา จะอยู่ที่ 50-120 Kb. ครับ ซึ่งแบบที่ 3 (Remote upload) ค่อนข้างจะเร็วที่สุดครับ แต่ติดปัญหาอยู่ที่ว่าเราไม่สามารถกำหนดไฟล์ ตัดหรือรวมไฟล์ได้ตามที่เราต้องการเท่านั้นเอง หัวข้อต่อไปเดี๋ยวผมจะบอกถึงวิธีการอัพโหลดไฟล์โดยใช้ Leech เข้ามาช่วยครับ แต่มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แต่ว่าเมื่อเทียบกับที่จ่ายไปแต่ละเดือนบอกได้คำเดียวว่าคุ้มครับ 
 
*เราควรสมัคร Premium ของโฮสต์ Filesonic ไว้ด้วยเมื่อเรามีรายได้เกิดขึ้นด้วยเพราะไฟล์ที่เราอัพโหลดไว้จะได้ไม่หมดอายุเมื่อไม่มีคนดาวน์โหลดไฟล์นั้น ๆ ซึ่งเราสามารถนำรายได้ที่เกิดจากการอัพโหลดไฟล์จ่ายโดยตรงในบัญชี Filesonic หรือจ่ายผ่านทางบัญชี Paypay ก็ได้ครับ